นักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ ค้นพบเรือดำน้ำของญี่ปุ่นในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 จมอยู่ใต้ทะเลใกล้ชายฝั่งรัฐฮาวาย โดยเป็นเรือที่ถูกส่งมาเพื่อจู่โจมคลองปานามา ก่อนจะถูกกองทัพสหรัฐฯโจมตีจนจมลงเมื่อหลายสิบปีก่อน... สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ว่า นักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยฮาวายเปิดเผยว่า เรือดำน้ำดังกล่าวเป็นรุ่น 'ไอ-400' ระดับชั้น 'เซน-โตกุ' ซึ่งเป็นเรือดำน้ำยุคก่อนใช้พลังงานนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกลำหนึ่ง มีความยาว 122 ม. ถูกค้นพบใต้ทะเลลึก 2,300 ม. ใกล้ชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะโอวาฮู เมื่อเดือน ส.ค. แต่เพิ่งสามารถเปิดเผยได้เมื่อวันจันทร์ (2 ธ.ค.) โดยเรือลำนี้หายสาบสูญไปตั้งแต่ปี 1946 การค้นพบครั้งนี้ ถือเป็นการค้นพบอย่างไม่ตั้งใจ โดย จิม เดลกาโด นักโบราณคดีซึ่งทำงานกับ สำนักงานบริหารบรรยากาศและมหาสมุทรแห่งชาติ (เอ็นโอเอเอ) ซึ่งโดยสารไปกับเรือดำน้ำลึก 'พิสเซส 5' (Pisces V) เพื่อสำรวจเรือดำน้ำ ไอ-400 กล่าวว่า พวกเขากำลังมองหาเป้าหมายอื่นอยู่ แต่กลับพบเรือลำนี้เข้าพอดี เขาระบุอีกว่า ไอ-400 ลำนี้ถูกยิงด้วยตอร์ปิโตของสหรัฐฯจนจมลง ทั้งนี้ กองทัพสหรัฐฯในยุคนั้น อ้างว่าไม่มีข้อมูลพิกัดที่แน่ชัดว่าเรือดำน้ำลำนี้จมลงที่จุดใด ซึ่งดูเหมือนเป็นความพยายามป้องกันไม่ให้เทคโนโลยีของไอ-400 ตกไปอยู่ในมือของสหภาพโซเวียต ซึ่งเรียกร้องให้คืนเรือดังกล่าวแก่ญี่ปุ่น อนึ่ง เรือดำน้ำไอ-400 กับ ไอ-401 เรือพี่น้องของมัน ซึ่งค้นพบซากอยู่ใต้ทะเลในปี 2005 มีขีดความสามารถเดินทางรอบโลกได้ 1 รอบครึ่ง โดยไม่ต้องเติมเชื้อเพลิงใหม่ และสามารถบรรทุกเครื่องบินทิ้งระเบิด 'ไอจิ เอ็ม6เอ' ได้ถึง 3 ลำ
ข้อมูลจาก ไทยรัฐ ออนไลน์ |
< ย้อนกลับ | ถัดไป > |
---|