|
นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า นักลงทุนญี่ปุ่น 80% ยังมีความเชื่อมั่นที่จะลงทุนในประเทศไทยต่อเนื่อง เพราะเชื่อมั่นในนโยบายและแผนการป้องกันน้ำท่วมของไทย ประกอบกับที่ผ่านมา นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปสร้างความเชื่อมั่นที่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ ส่วนโตโยต้ายัง คงเดินหน้าลงทุนในประเทศไทยต่อเนื่อง เพราะมั่นใจกับนโยบายของรัฐบาลไทย รวมทั้งเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของไทยจะเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ไทยขึ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคอาเซียน พร้อมทั้งได้เชิญชวนนักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่ม เพราะมองว่าประเทศไทยยังมีพื้นที่มีศักยภาพในการลงทุนอีกหลายแห่ง เช่น พื้นที่ทางภาคเหนือและภาคตะวันออก นายทานาดะ กล่าวว่า หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากการทำตลาดรถยนต์โตโยต้า คัมรี่ ในประเทศไทย โดยมียอดขายรวมตั้งแต่ปี 2542 ปี จนถึงปัจจุบันกว่า 1.3 แสนคัน ด้วยส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลาง 53% ล่าสุดได้เปิดตัวรถยนต์ “โตโยต้า คัมรี่” ภายใต้แนวคิด “นิว เอร่า ซีดาน” ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 5 ในไทย และเป็นเจเนอเรชั่นที่ 7 ของโลก หลังจากได้เปิดตัวครั้งแรกที่ญี่ปุ่นช่วงปลายปีที่ผ่านมา มียอดขายแล้วกว่า 1.3 หมื่นคัน (ส.ค. 54-ม.ค. 55) ซึ่งเกินเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่การส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าต้องล่าช้าออกไป 2-3 เดือน เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมในประเทศไทยช่วงปลายปีที่ผ่านมา สำหรับคัมรี่ ใหม่ ได้ปรับโฉมทั้งกันชนหน้า, ไฟตัดหมอก, กระจังหน้า, โคทไฟหลัง, ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว รวมถึงแอร์โรไดนามิก ฟิน ที่ช่วยปรับการไหลของอากาศตามหลักพลศาสตร์ มีทั้งหมด 5 รุ่น ประกอบด้วย รุ่น 2.0 จี, 2.5 จี, 2.5 ไฮบริด ซีดี, 2.5 ไฮบริด ดีวีดี และ 2.5 ไฮบริด ดีวีดี เนวิเกเตอร์ ราคาเริ่มต้น 1.29-1.86 ล้านบาท โดยปีแรกตั้งเป้ายอดขายคัมรี่ ไว้ที่ 1.7 หมื่นคัน หรือเฉลี่ย 1,700 คัน/เดือน แบ่งเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและไฮบริด 50:50 พร้อมส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้สิ้นเดือน มี.ค. สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน และระบบไฮบริดในช่วงเดือน เม.ย. 2555 ขณะที่ยอดการส่งออกคาดว่าจะสามารถทำได้ 5,500 คันในภูมิภาคอาเซียน "ส่วนค่าแรง 300 บาท เชื่อว่าไม่กระทบต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่จะกระทบต่ออุตฯ ชิ้นส่วนยานยนต์มากกว่า โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่เป็นเอสเอ็มอี ทั้งนี้ อยากให้ผู้ประกอบการไทยเพิ่มศักยภาพการผลิตให้มากขึ้น" นายทานาดะ กล่าว
ข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ |
| < ย้อนกลับ | ถัดไป > |
|---|
