-
Section:
News -
-
ข่าว hot ญี่ปุ่น
ประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน ของฟิลิปปินส์ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ได้ออกมาพูดเปรียบเปรยกิจกรรมในทะเลจีนใต้ของจีนเวลานี้ ว่าไม่ต่างอะไรกับลัทธิมุ่งขยายอาณาเขตของนาซีเยอรมนีในช่วงก่อนสงครามโลก ครั้งที่ 2 พร้อมกับกล่าวหนุนหลังอเมริกามหามิตรว่าเป็นอภิมหาอำนาจที่มีบทบาทสำคัญใน การยับยั้งความก้าวร้าวของแดนมังกร อากีโน ซึ่งเป็นที่คาดหมายว่าจะทำความตกลงกระชับความผูกพันทางการทหารและความมั่นคง กับญี่ปุ่นเมื่อเขาพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ วันพฤหัสบดี (4) นี้ ได้กล่าวเปรียบเทียบเช่นนี้ในการแสดงปาฐกถาที่กรุงโตเกียวซึ่งจัดโดยหนังสือ พิมพ์นิกเกอิเมื่อวันพุธ ขณะถูกถามถึงยุทธศาสตร์ “หวนกลับมาปรับสมดุล” ให้ความสำคัญต่อเอเชียของวอชิงตัน และความเคลื่อนไหวทางทะเลในระยะหลังๆ มานี้ของปักกิ่ง ผู้นำแดนตากาล็อกก็แสดงความเห็นว่า สหรัฐฯมีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่ง พร้อมกับเตือนว่าในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น ถึงแม้ฝ่ายตะวันตกพยายามใช้วิธีประจบเอาใจไม่ออกมาทักท้วงทัดทาน แต่นาซีเยอรมนีก็ยังคงรุกรานแผ่ขยายดินแดนออกไปอย่างไม่ยอมหยุดยั้งอยู่นั่น เอง “ถ้าหากเกิดมีช่องว่างสูญญากาศขึ้นมา ถ้าหากสหรัฐฯซึ่งคืออภิมหาอำนาจ กลับพูดว่า 'เราไม่สนใจหรอก' บางทีนี่จะทำให้ไม่มีการเบรกความทะเยอทะยานของประเทศอื่นๆ” อากีโนกล่าวต่อไปว่า ในพวกภาพยนตร์สารคดีซึ่งพูดถึงลัทธิขยายดินแดนของนาซีเยอรมนีก่อนสงคราม มักมีการตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าหากในตอนนั้นมีใครบางคนออกมาพูดปราม อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ หรือเยอรมนี ให้ยุติการรุกรานตั้งแต่ต้นมือแล้ว นั่นอาจจะทำให้เราสามารถหลีกเลี่ยงไม่ต้องเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 “ดังนั้น ผมจึงขอพูดอีกครั้งหนึ่งว่า การหวนกลับมาปรับสมดุลของอเมริกา เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนแน่วแน่ว่า พวกเราทั้งหมดต่างมีความมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์บรรทัดฐาน ที่พวกเราได้ตกลงเห็นพ้องกันเอาไว้” ตัวอากีโนได้เคยพูดวิจารณ์เปรียบเทียบพฤติการณ์ของจีนกับนาซีเยอรมนี ก่อนสงครามเช่นนี้มาก่อน ในการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์เมื่อปีที่แล้ว และทำให้ฝ่ายจีนออกมาตอบโต้อย่างกราดเกรี้ยว ในคราวนี้ก็เช่นกัน หวา ชุนอิง โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงจากกรุงปักกิ่งในวันพุธว่า รู้สึกช็อกจากคำพูด “ที่สร้างความขุ่นเคืองและไร้เหตุผล” อีกครั้งหนึ่งของอากีโน “ดิฉันขอเตือนบุคคลบางคนในฟิลิปปินส์อย่างจริงจังยิ่งขึ้นอีกครั้ง หนึ่งว่า พวกเขาควรละทิ้งภาพลวงตาของพวกเขาไปเสีย และหันกลับมารู้สึกผิดชอบ, ยุติการยั่วยุและการยุยง และหวนกลับมาสู่เส้นทางอันถูกต้องแห่งการใช้ช่องทางทวิภาคีเพื่อการเจรจาและ แก้ไขข้อพิพาทนี้กัน” โฆษกหญิงผู้นี้กล่าวย้ำว่า จีนมีสิทธิทุกประการในการดำเนินการก่อสร้างถมทะเลในทะเลจีนใต้ ขณะที่สหรัฐฯต่างหากที่ไร้เหตุผลในการส่งเรือรบและเครื่องบินออกไปตรวจการณ์ ยังพื้นที่เหล่านี้ “มีกฎหมายระหว่างประเทศอะไรหรือที่ห้ามปรามไม่ให้จีนกระทำการก่อ สร้างอย่างสมเหตุสมผลบนเกาะและแนวปะการังที่เป็นของตนเอง? และมีกฎหมายอะไรหรือที่อนุญาตให้ส่งเรือรบและเครื่องบินออกมาสอดแนมใกล้ๆ เกาะและแนวปะการังของอีกประเทศหนึ่ง?” เธอบอก ทั้งนี้อากีโนระบุว่า โครงการก่อสร้างถมทะเลในทะเลจีนใต้ บริเวณพื้นที่ซึ่งยังพิพาทแย่งชิงอยู่กับชาติอื่นๆ ที่จีนกำลังดำเนินการอยู่ในเวลานี้ น่าจะเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ และเรียกร้องให้จีนทบทวนเรื่องนี้โดยพิจารณาว่ากำลังสร้างความตึงเครียด เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาค ขณะเดียวกัน คำพูดคราวนี้ของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ยังเท่ากับเป็นการสำทับคำแถลงของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งพาตัวเองเข้าสู่กรณีพิพาทนี้เป็นหนแรกด้วยการเรียกร้องเมื่อวันจันทร์ (1) ขอให้มหาอำนาจในเอเชีย โดยเฉพาะจีน เคารพกฎหมาย และเลิก “เหวี่ยงศอก” ใส่ชาติอื่น ไม่เพียงเท่านั้น ก่อนหน้านี้ในปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรีอาเบะของญี่ปุ่นยังเคยทำให้เกิดการโต้แย้งกันอย่างขุ่นเคือง ขึ้นมา เมื่อกล่าวเปรียบเทียบที่ทำให้เข้าใจไปว่า เขากำลังระบุว่าญี่ปุ่นกับจีนในเวลานี้ ละม้ายคล้ายคลึงกับอังกฤษและเยอรมนีในช่วงใกล้ๆ จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ต่อมารัฐบาลญี่ปุ่นจึงต้องพยายามลดทอนน้ำหนักของคำพูดเหล่านี้ของอา เบะ ซึ่งได้รับการรายงานข่าวออกไปอย่างกว้างขวาง โดยประณามว่าเป็นความผิดพลาดจากการแปลภาษา สำหรับการเยือนญี่ปุ่นของอากีโนครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 6 แล้วในช่วงเวลาไม่ถึง 5 ปี เรื่องนี้บ่งชี้ความสัมพันธ์อันแนบแน่นของสองประเทศที่ต่างกังวลกับการรุก หน้าอย่างแข็งกร้าวของพญามังกร โดยในระหว่างกล่าวปาฐกถาเมื่อวันพุธ ผู้นำฟิลิปปินส์ยังยกย่องที่ญี่ปุ่นสนับสนุนแนวทางแก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติ วิธีอย่างมีหลักการและอย่างถูกต้องตามกฎหมายของฟิลิปปินส์ รวมทั้งร่วมส่งเสริมเสรีภาพในการเดินเรือและหลักนิติธรรมท่ามกลางบรรยากาศ คุกรุ่นจากการที่จีนอ้างสิทธิ์อธิปไตยเหนือทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด ทั้งนี้แม้ไม่มีข้อพิพาทกับจีนในทะเลจีนใต้ แต่ญี่ปุ่นมีกรณีแย่งชิงหมู่เกาะกับปักกิ่งในทะเลจีนตะวันออก นอกจากนี้ ญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ต่างเป็นพันธมิตรสำคัญของอเมริกาในเอเชีย ระหว่างได้รับเกียรติให้ไปกล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมรัฐสภาของ ญี่ปุ่นในช่วงบ่ายวันพุธ อากีโนก็ได้ย้ำทัศนะของเขาอีกครั้ง โดยกล่าวว่า “ความมั่งคั่งรุ่งเรืองของท้องทะเลและของดินแดนชายฝั่งในเอเชียตะวันออกและ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ … กำลังตกอยู่ในความเสี่ยง โดยกำลังถูกก่อกวนจากความพยายามที่จะขีดลากข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ตลอดจนความ เป็นเจ้าของผู้ครอบครองกันเสียใหม่ ทั้งนี้ข้อจำกัดและความเป็นเจ้าของที่จะขีดลากกันขึ้นใหม่เหล่านี้ เป็นสิ่งซึ่งอยู่นอกเหนือการขีดแบ่งชนิดที่ได้รับการรับรองอย่างชัดเจนจาก กฎหมายระหว่างประเทศแล้ว” เขายังกล่าวยกย่องญี่ปุ่นว่า ยึดมั่นในลัทธินิยมสันติอย่างมั่นคงในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พร้อมกับบอกว่าสายสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับฟิลิปปินส์ “ได้กำเนิดขึ้นมาใหม่เหมือนการคืนชีพของนกฟินิกซ์” ภายหลังสงคราม โดยที่สายสัมพันธ์เช่นนี้ช่างขัดแย้งตรงกันข้ามกับสายสัมพันธ์กับ “ประเทศหนึ่งซึ่งพวกเราต่างก็ประสบความยากลำบากในการติดต่อด้วย” อากีโนระบุในตอนหนึ่งของคำปราศรัย ซึ่งเห็นชัดว่าหมายถึงประเทศจีน สำหรับในวันพฤหัสบดี (4) อากีโนยังมีนัดหารือกับนายกรัฐมนตรีอาเบะ โดยคาดว่า จะมุ่งเน้นการกระชับสัมพันธ์ด้านกลาโหมและความมั่นคง มีรายงานว่าผู้นำสองประเทศจะร่วมลงนามข้อตกลงที่ยืนยันว่า ญี่ปุ่นจะจัดหาเรือตรวจการณ์ให้หน่วยยามฝั่งของฟิลิปปินส์ เพื่อสนับสนุนการตรวจการณ์รอบหมู่เกาะและแนวปะการังในทะเลจีนใต้ที่ ฟิลิปปินส์อ้างสิทธิ์อธิปไตย เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยเมื่อต้นสัปดาห์ว่า อาเบะและอากีโนจะหารือในการขยายความร่วมมือทางทหารในด้านต่างๆ อาทิ การถ่ายโอนอุปกรณ์และเทคโนโลยีทางการทหารของญี่ปุ่นให้ฟิลิปปินส์ โดยอุปกรณ์และเทคโนโลยีเหล่านี้อาจเกี่ยวข้องกับการตรวจการณ์ทางทะเล
ข้อมูลจาก ผู้จัดการ ออนไลน์
|
แก้ไขล่าสุด ใน วันศุกร์ที่ 05 มิถุนายน 2015 เวลา 07:49 น.