วันที่ 17 กันยายน ที่วัดวังหิน หมู่ 4 ต.วังแดง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ เขตเทศบาลตรอน มีชาวบ้านจากทั่วสารทิศแห่ดูเรือโบราณที่มีขนาดใหญ่ สามารถจุคนนั่งได้ประมาณ 20-30 คน ลักษณะเป็นเรือเหล็ก ที่มีความยาวประมาณ 9 เมตร กว้าง 2.10 เมตร สูง 1.15 เมตรและนำดอกไม้ธูปเทียนไปกราบไหว้แม่ย่านางประจำของเรือเพื่อให้คุ้มครองคนภายในหมู่บ้านได้อยู่เย็นเป็นสุข สำหรับเรือดังกล่าวนายสมเกียรติ กระแสสินธุ์ และนายทองสังข์เกตุ สุวรรณ นำแหออกหาปลาที่บริเวณคุ้งแม่น้ำน่าน ใต้สะพานวังหินบริเวณหมู่ 10 อยู่ท้ายวัด ทอดแหไปติดกับวัสดุบางอย่างทำให้ดึงไม่ขึ้นและแหเกิดขาด จึงว่ายลงไปดูพบเห็นเรือลำดังกล่าวจมอยู่ใต้แม่น้ำในลักษณะคว่ำลงโพล่แต่ก้นเรือขึ้นมาเล็กน้อย ช่วยกันพลิกเรือกลับขึ้นมาพร้อมดันลำเรือเข้ามาที่ท่าน้ำของวัดวังหิน จากนั้นแจ้งให้ทางอำเภอทราบและนำรถเคลนจากเทศบาลตรอนยกเรือขึ้นตั้งเอาไว้ที่วัด นายธาตรี บุญมาก นายอำเภอตรอน กล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบทราบว่าเรือดังกล่าว เป็นเรือสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตรงกับช่วงปี พ.ศ.2484 เป็นช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นประกาศสงครามกับกลุ่มพันธ์มิตรแล้วมีการนำกำลังยกบกขึ้นบกผ่านประเทศไทยไปยังประเทศพม่าเพื่อต่อสู่กับกลุ่มพันธ์มิตรมีการตั้งค่ายในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ตั้งแต่อำเภอเมืองเรื่อยมาจนถึงอำเภอตรอนและอำเภอพิชัย เป็นเรือที่ใช้ขนกำลังพล สัมภาระอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ สิ่งที่สำคัญเรือลำสามารถปรับเป็นสะพานเพื่อใช้ขนคนและสิ่งของข้ามแม่น้ำน่านได้ด้วย โดยนำเรือจำนวนหลายลำมาต่อกันแล้วนำแผ่นเหล็กปิดบน หัวเรือเหมือนสะพานเพื่อให้พาหนะยานยนต์ทุกชนิดสามารถข้ามฝั่งไปอีกด้านหนึ่งได้ หลังจากฝ่ายพันธ์มิตรทิ้งระเบิดเส้นทางรถไฟบ้านดาราจนพัง เรือสร้างจากอะลูมิเนียม มีน้ำหนักเบาสามารถเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้สะดวก คาดว่ามีอายุประมาณ 73 ปี เหตุที่นำมาไว้ที่วัดวังหิน เพื่อต้องการให้ชนรุ่นหลังได้ชมและรับทราบถึงเรื่องราวสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอตรอน
ข้อมูลจาก มติชน ออนไลน์ |
< ย้อนกลับ | ถัดไป > |
---|