ชุดกิโมโน(着物)เป็นชุดแต่งกายประจำชาติของประเทศญี่ปุ่น มีประวัติความเป็นมาช้านาน โดยถ้าพูดถึงชุดกิโมโน(着物) อย่างแรกที่หลายๆคนนึกถึงก็คือความสง่าที่เพรียบพร้อมไปด้วยความสวยงามของชุดนะครับ อาจารย์เชื่อว่าผู้หญิงหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาว หรือหญิงสาวเหลือน้อย คงจะต้องคิดว่าอยากจะลองใส่ดูสักครั้งในชีวิต และถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกเป็นแน่ แต่ใครจะรู้บ้างว่า กิโมโนนั้นมีการสวมใส่ที่ยากมาก จนคนญี่ปุ่นบางคนหลายคนพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นชุดที่ใส่คนเดียวไม่ได้ ต้องมีคนมาช่วยใส่ โดยคันจิในภาษาญี่ปุ่นของคำว่ากิโมโน จะมาจาก คันจิสองตัวมารวมกันนั่นก็คือ 着る(V2)= สวมใส่ และคันจิตัว 物(N)= สิ่งของ นำมารวมกันคือ สิ่งของที่ใช้สวมใส่ ก็เลยออกมาเป็นชุดกิโมโนที่เราเห็นกันนะครับ ส่วนประกอบของกิโมโนนั้นก็จะเป็นตามรูปที่อาจารย์นำมาให้ดู และแปลภาษาไทยเอาไว้แล้วด้านล่างนะครับ
ประวัติของชุดกิโมโนนั้น มีมาอย่างยาวนานมากในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเฮอัน หรือตรงกับ ค.ศ. 794-1192 ( ประมาณ พ.ศ. 1337-1735 )ก่อนหน้านั้น ซึ่งเป็นสมัยนารา ( ค.ศ. 710-794 ) ชาวญี่ปุ่นนิยมแต่งชุดท่อนบนกับท่อนล่างเหมือนกันหรือไม่ก็เป็นผ้าชิ้นเดียวกันไปเลย พอมาถึงสมัยเฮอัน ซึ่งถือเป็นช่วงเริ่มต้นการใส่กิโมโน ชาวญี่ปุ่นพัฒนาเทคนิคการตัดยุดเสื้อผ้าด้วยการตัดผ้าเป็นเส้นตรง เพื่อให้ง่ายต่อการสวมใส่ หยิบมาคลุมตัวได้ทันที ทั้งยังเป็นชุดที่เหมาะกับทุกสภาพอากาศ ถ้าหนาวๆ ใช้ผ้าหนา ถ้าเป็นฤดูร้อนก็เปลี่ยนไปใช้ผ้าบางๆความสะดวกสบายนี้ทำให้ชุดกิโมโนแพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว โดยวงการแฟชั่นสมัยนั้น ผู้ตัดเย็บก็จะคิดหาวิธีที่ทำให้ชุดกิโมโนมีสีสัน ผสมผสานกันด้วยสีต่างๆให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและชนชั้นทาง สังคมถือว่าเป็นช่วงที่ชุดพัฒนาในเรื่องสี มากที่สุด ต่อมาในยุคเอโดะ ( ค.ศ. 1600-1868 ) ช่วงที่โชกุนโตกูกาวาปกครองญี่ปุ่น ในช่วงนี้นักรบซามูไรแต่ละสำนักจะแต่งตัวแบ่งแยกตามกลุ่มของตัวเอง เรียกว่าเป็น "ชุดเครื่องแบบ" เลยด้วยซ้ำชุดที่ใส่นี้ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ชุดกิโมโน ชุดคามิชิโม ตัดเย็บด้วยผ้าลินินใส่คลุมชุดกิโมโนเพื่อให้ไหล่ดูตั้ง และกางเกงขายาวที่ดูเหมือนกระโปงแยกชิ้นชุดกิโมโนของซามูไรจำเป็นต้องเนี้ยบมาก ดังนั้นจึงเป็นช่วงที่พัฒนากิโมโนไปอีกขั้น จนเป็นผลงานศิลปะชิ้นหนึ่ง สมัยต่อมา ในยุคเมจิ (ค.ศ. 1868-1912) ญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากต่างชาติรุนแรงมาก ชาวแดนปลาดิบ จึงเริ่มเปลี่ยนไปใส่เสื้อสากลมากขึ้น และจะใส่ชุดกิโมโน เมื่อถึงงานที่เป็นพิธีการเท่านั้น ในปัจจุบัน ชาวญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันส่วนใหญ่จะแต่งกายแบบสากล ผู้ที่สวมกิโมโนในชีวิตประจำวันก็จะมีเพียงผู้ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับศิลปะญี่ปุ่นแต่โบราณเท่านั้น หรือไม่ก็อาจจะสวมเฉพาะในงานพิธีต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน งานฉลองการบรรลุนิติภาวะ งานปีใหม่ ฯลฯ เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ผู้ที่สามารถสวมชุดกิโมโนได้เองจึงมีน้อย ถึงขนาดจัดเป็นคุณสมบัติข้อหนึ่งของ "การเตรียมตัวเพื่อเป็นเจ้าสาว" ของสตรี
ตัวอย่างชุดกิโมโนที่วางขายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ที่มีราคาสูงถึง4-5หมื่นบาท ดังนั้นคนญี่ปุ่นคนใดถ้าใครที่อยากจะเป็นกุลสตรีแล้ว ก็ต้องฝึกแต่งชุดกิโมโนให้เนี้ยบและคล่อง จะถือว่าหญิงคนดังกล่าวมีความเป็นกุลสตรี และเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆญี่ปุ่นเลยทีเดียว สุดท้ายอาจารย์นำตัวอย่างการแต่งชุดกิโมโนที่ถูกต้องมาให้ดูกันนะครับ ค่อนข้างมีอุปกรณ์ต่างๆที่เยอะและวุ่นวายมาก ดังนั้นใครที่อยากจะใส่นั้น คงจะต้องลองฝึกดูวิธีการใส่ไปก่อน ไม่แน่นะครับว่า อาจจะมีหนุ่มๆญี่ปุ่นเดินเข้ามาบอกว่าคุณเป็นกุลสตรีที่เพรียบพร้อมมาก ก็อาจจะเป็นได้…
เนื้อเรื่องโดย อาจารย์แบงค์ รูปภาพโดย ทีมงานโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นอาจารย์แบงค์ |
< ย้อนกลับ | ถัดไป > |
---|