กรีนพีซ องค์กรรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม ระบุว่า ญี่ปุ่นใช้ เงินบริจาคจากกองทุนฟื้นฟูผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวและสึนามิจำนวน 2.3 ร้อยล้านเยน หรือ ราว 911 ล้านบาทเพื่อเพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้กับเรือล่าวาฬ และใช้เงินดังกล่าวในการจ่ายหนี้ นายทัตสึยะ นากาโอกุ เจ้าหน้าที่สำนักงานประมงญี่ปุ่น กล่าวว่า ชุมชนที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่งที่ประสบภัยสึนามิ ต้องพึ่งพาการล่าวาฬเป็นรายได้หลักในการดำรงชีวิต งบประมาณดังกล่าว ถูกนำไปใช้เพื่อคุ้มครองให้การล่าวาฬมีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ชุมชนบริเวณนั้นมีรายได้ และเป็นการฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่จากภัยพิบัติ อย่างไรก็ตาม นายจูนิชิ ซาโตะ ตัวแทนกรีนพีซญี่ปุ่น เผยกับสำนักข่าวเอบีซีของออสเตรเลียว่า โครงการล่าวาฬไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการช่วยฟื้นฟูผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว และสึนามิแต่อย่างใด แต่เป็นการนำเงินไปใช้เพื่อจ่ายหนี้ในโครงการล่าวาฬ เพราะโครงการนี้กำลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก มีรายงานว่า เรือล่าวาฬญี่ปุ่นเดินทางออกจากท่า มุ่งหน้าไปยังมหาสุมทรแอนตาร์กติก ในขั้วโลกใต้ เมื่อวันอังคาร (6ธ.ค.) ซึ่งเป็นการเข้าสู่ฤดูกาลล่าวาฬประจำปี ญี่ปุ่นถูกห้ามไม่ให้ล่าวาฬ เพื่อการพาณิชย์ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา ตามสนธิสัญญาห้ามล่าวาฬ แต่ญี่ปุ่นยัง คงอาศัยช่องว่างในข้อตกลงกระทำการล่าวาฬราว 1 พันตัวต่อปี โดยอ้างว่า เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แต่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยบอกว่า เป็นการนำโครงการวิจัยมาบังหน้าการล่าวาฬเพื่อการค้ามากกว่า และกล่าวหาชาวญี่ปุ่นว่า กำลังทำให้วาฬใกล้สูญพันธุ์ เพียงเพื่อนำมันมาเป็นอาหาร กลุ่มต่อต้านการล่าวาฬ มักใช้เรือเข้าขัดขวางเรือล่าวาฬอย่างรุนแรงทุกปี และปีที่แล้วเหตุปะทะกัน ทำให้เรือล่าวาฬญี่ปุ่นต้อง ยอมยุติการล่าวาฬก่อนกำหนด ส่วนประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งคัดค้านการล่าวาฬ กำลังพิจารณาส่งเรือลาดตระเวนเพื่อจับตาเรือล่าวาฬของญี่ปุ่น
ข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ |
< ย้อนกลับ | ถัดไป > |
---|