รัฐบาลญี่ปุ่นเผยแพร่สมุดปกขาวด้านกลาโหมประจำปีนี้ วิจารณ์บทบาทของจีนต่อกรณีพิพาททางทะเลในเอเชียว่าเป็นพฤติการณ์ที่ "น่าวิตกกังวลอย่างยิ่ง" เนื่องจากขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอาจนำไปสู่เหตุการณ์ "เหนือความคาดหมาย" ในอนาคต สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ว่ากระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเผยรายงานวิเคราะห์สถานการณ์ประจำปีนี้ ซึ่งเป็นเอกสารด้านความมั่นคงที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า "สมุดปกขาว" โดยมีสาระสำคัญเป็นการ "แสดงความวิตกกังวลอย่างลึกซึ้ง" ต่อสถานการณ์ภายในภูมิภาคที่ตึงเครียดขึ้นทุกขณะ นับตั้งแต่จีนเพิกเฉยต่อคำวินิจฉัยของคณะอนุญาโตตุลาการถาวร ( พีซีเอ ) ในเรื่องทะเลจีนใต้ ซึ่งญี่ปุ่นเรียกร้องให้รัฐบาลปักกิ่งยึดมั่นกับมติดังกล่าวที่มี "ผลผูกพันตามกฎหมาย" แต่ได้รับการตอบสนองจากจีนเพียงว่า "ไม่ใช่กรณีที่ญี่ปุ่นควรเข้ามายุ่งเกี่ยว" แม้ญี่ปุ่นไม่ใช่หนึ่งในประเทศที่ร่วมอ้างกรรมสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ แต่แน่นอนรัฐบาลโตเกียวมีความหวั่นเกรงว่าการที่จีนเดินหน้าขยายอิทธิพลของอีกฝ่ายบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์โดยไม่มีฝ่ายใดสามารถหยุดยั้งได้ อาจส่งผลกระทบสืบเนื่องมายังสถานการณ์ในทะเลจีนตะวันออกที่ญี่ปุ่นและจีนมีข้อพิพาทกันอยู่ โดยญี่ปุ่นอ้างด้วยว่าเครื่องบินรบของตัวเองสามารถสกัดการละเมิดน่านฟ้าของเครื่องบินจีนเหนือพื้นที่บริเวณดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 570 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ท่าเรือส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นเป็นจุดพักของเรือสินค้าที่เดินทางผ่านทะเลจีนใต้ทั้งสิ้น นอกจากนี้ เนื้อหาในสมุดปกขาวด้านกลาโหมของรัฐบาลโตเกียวที่มีความยาว 484 หน้า ยังระบุถึงสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี ว่าโครงการพัฒนาขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเป็นมากกว่า "ภัยคุกคามร้ายแรงที่อยู่ใกล้ตัว" ในระดับภูมิภาค แต่ยังเป็นอันตรายต่อเสถียรภาพด้านความมั่นคงของโลกด้วย และวิเคราะห์ว่ารัฐบาลเปียงยางอาจซุ่มพัฒนาเทคโนโลยีขีปนาวุธที่ยิงได้ไกลถึง 10,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ รายงานของรัฐบาลโตเกียวสรุปทิ้งท้ายว่า ความเคลื่อนไหวของจีนที่มีต่อสถานการณ์ความขัดแย้งเรื่องอาณาเขตทางทะเลในเอเชียเป็นการกระทำที่อันตรายและอาจกระตุ้นให้เกิดสถานการณ์ "เหนือความคาดหมาย" สร้างความกังวลให้แก่ทุกฝ่ายเกี่ยวกับบรรยากาศในอนาคตนับจากนี้
ข้อมูลจาก เดลินิวส์ ออนไลน์ |
< ย้อนกลับ | ถัดไป > |
---|