นายสตีเฟ่น กัลยาณมิตร กรรมการบริหาร บริษัท แอคเซลเล้นซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทประกาศรวมกิจการกับ "เอ็นทีที ดาต้า กรุ๊ป" ผู้ให้บริการธุรกิจด้านไอทีรายใหญ่อันดับ 6 ของโลกจากญี่ปุ่น โดยได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นในแอคเซลเล้นซ์ (ประเทศไทย) สัดส่วน 53% เพื่อเพิ่มมูลค่าทุนจดทะเบียนบริษัทจาก 252 ล้านบาท เป็นมากกว่า 500 ล้านบาท มีผลตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2554 ทั้งนี้ จะยังคงใช้ชื่อเดิม คือ แอคเซลเล้นซ์ (ประเทศไทย) แต่เพิ่ม "แอน เอ็นทีที ดาต้า คอมพานี" (Accellence an NTT Data Company) เพื่อย้ำว่าจะยังให้สิทธิการบริหารหลักโดยคนไทยและไม่ใช่การรวมธุรกิจกับ บริษัท "เอ็นทีที ดาต้า ไทยแลนด์" ที่มีอยู่เดิม เนื่องจากมีกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดต่างกันและทีมบริหาร รวมถึงการสร้างรายได้แยกกันชัดเจน "เดิมแอคเซลเล้นซ์เป็น บริษัทคนไทยที่ทำหน้าที่เป็นเอาท์ซอร์สไอที ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ให้องค์กรใหญ่ๆ โดยเฉพาะธนาคารในประเทศกว่า 90% เป็นลูกค้าของเราอยู่แล้ว และมีบุคลากรที่เก่งด้านซอฟต์แวร์ของอาโทส ออริจิน ซึ่งเป็นบริษัทเดิมที่แอคเซลเล้นซ์ซื้อ หุ้นมาบริหารเอง 100% ซึ่งการที่บริษัทไอทีเซอร์วิสเบอร์ 6 ของโลกเชื่อมั่นมาลงทุนในไทย ทั้งๆ ที่บริษัทเราไม่มีทรัพย์สิน มีแต่ทรัพยากรคนทำให้เรารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่คนไทยน่าจะภูมิใจ" พร้อมเผยว่า ดีลดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีเงินทุนสำหรับทำโซลูชั่นให้บริการลูกค้า รวมทั้งได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งด้านโซลูชั่นการเงิน ระบบดำเนินการบัตรเครดิต การทำทรานแซคชั่น และอิเล็กทรอนิกส์ เปย์เมนท์ ของเอ็นทีที มาให้บริการลูกค้าไทย ส่วนโซลูชั่นใหม่ที่จะรุกตลาดเพิ่มตัวเลือกให้ลูกค้ากลุ่มธนาคารรายย่อย ที่ทุนไม่สูงนัก คือ บริการด้าน “ทรานสแอคชั่นเบส” โดยบริษัทจะทำเป็นโซลูชั่นทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ คิดค่าใช้บริการตามจำนวนการใช้งาน ซึ่งข้อดีคือลูกค้าไม่ต้องลงทุนมาก บริษัทตั้งเป้าเจาะตลาดใหม่กลุ่มพับบลิค เซคเตอร์ และธุรกิจประกันภัย รวมทั้งวางแผนขยายตลาดในต่างประเทศช่วงที่อาเซียนกำลังจะเปิดเสรีเศรษฐกิจ (เออีซี) ซึ่งเป็นความได้เปรียบในฐานะมีพันธมิตรรายใหญ่และมีโซลูชั่นที่แข็งแกร่ง ชัดเจน นายเรียวจิ ฟูกาย่า กรรมการบริหาร และประธานเอ็นทีที ดาต้า เอเชียแปซิฟิก เผยว่า บริษัทมีนโยบายขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียรวมถึงไทย โดยเน้น 3 ตลาดใน 7 ประเทศ คือ เวียดนาม อินโดนีเซีย และไทย รวมทั้งกำลังเตรียมแผนขยายธุรกิจในตลาดพม่า โดยจะเน้นการเข้าไปจับมือกับพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อขยายตลาด นอกจากนี้ จะใช้วิธีการบริหารแบบโลคอลแม้จะเป็นบริษัทในระดับโกลบอล เพื่อเข้าถึงตลาดในท้องถิ่นให้ได้มากที่สุด ปีนี้กลุ่มเอ็นทีที ดาต้า ตั้งเป้ามีรายได้เพิ่มในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก 25% จากที่ผ่านมา ทำรายได้เพิ่มจาก 100 ล้านดอลลาร์เป็น 2,000 ล้านดอลลาร์ในเวลา 6 ปี ทั้งนี้ คิดเป็นสัดส่วนรายได้จากตลาดด้านการเงินราว 80% และกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตราว 20%
ข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ |
< ย้อนกลับ | ถัดไป > |
---|