กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานว่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 10.1% ในเดือนพ.ค.จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดตั้งแต่เดือนธ.ค. 2553 โดยการส่งออกไปสหรัฐเพิ่มขึ้น 16.3% จากปีก่อน ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดตั้งแต่เดือนพ.ค. 2555 ส่วนการส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้น 8.3% หรือมากที่สุดตั้งแต่เดือนก.พ. 2554 ด้านการนำเข้าเพิ่มขึ้น 10% ในเดือนพ.ค. เป็นเดือนที่ 7 ติดกัน ผลจากการซื้อก๊าซธรรมชาติมากขึ้น เมื่อคำนวนแล้ว ญี่ปุ่นขาดดุล 993,900 ล้านเยน นับเป็นการขาดดุลเดือนที่ 11 ติดกัน เพราะต้นทุนนำเข้าพลังงานยังสูง อย่างไรก็ตาม การส่งออกที่ เพิ่มขึ้นจะช่วยชดเชยกับเหตุการณ์ระยะหลัง ไม่ว่าจะเป็นการที่หุ้นถูกเทขาย ความผันผวนของพันธบัตร และเงินเยนที่แข็งค่า ซึ่งก่อให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับนโยบายของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ เนื่องจากแม้เงินเยนแข็งขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ก็ยังอ่อนค่ากว่าเมื่อปีที่แล้ว และมีแนวโน้มจะเอื้อประโยชน์แก่การส่งออกของญี่ปุ่น และช่วยให้ตัวเลขขาดดุลการค้าลดลง นักวิเคราะห์แห่งยูเอฟเจมอร์แกนสแตนเลย์ซีเคียวริตีรีส์ กล่าวว่าการส่งออกกำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง แม้การลงในรายละเอียดจะพบว่าปริมาณการส่งออกยังอ่อนแอ แต่ความต้องการจากสหรัฐกำลังเพิ่มขึ้น และน่าจะทำให้การขาดดุลการค้าของญี่ปุ่นลดลงในที่สุด
ข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ |
< ย้อนกลับ | ถัดไป > |
---|