เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น เตรียมเปิดตัว “ลูกศรดอกที่ 3” ในแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจแดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งรวมถึงการทำให้รายได้ต่อหัวประชากรเพิ่มขึ้นกว่า 1 ใน 3 ภายในระยะเวลา 10 ปี สื่อญี่ปุ่นรายงาน วันนี้(5) หนังสือพิมพ์ชั้นนำของเมืองปลาดิบ รายงานว่า นายกฯ อาเบะ เตรียมแถลงเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการเพิ่มรายได้มวลรวมประชาชาติต่อหัว (GNI) ให้สูงกว่าอัตราปัจจุบันไม่น้อยกว่า 1,500,000 เยน (ราว 457,000 บาท) ภายใน 10 ปีข้างหน้า สถิติอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลญี่ปุ่น ระบุว่า รายได้มวลรวมประชาชาติต่อหัวของญี่ปุ่นในปี 2011 อยู่ที่ราวๆ 45,180 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1,377,000 บาท) แผนฟื้นเศรษฐกิจของนายกฯญี่ปุ่นซึ่งเรียกกันว่า “อาเบะโนมิกส์” นั้น ประกอบด้วยยุทธศาสตร์ “ลูกศร 3 ดอก” ซึ่ง อาเบะ สัญญาว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจเมืองปลาดิบที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกหลุดพ้นจากปัญหาเงินฝืดเรื้อรัง ลูกศร 2 ดอกแรกที่โตเกียวยิงออกไปแล้ว ได้แก่ การใช้จ่ายงบประมาณครั้งใหญ่ และมาตรการผ่อนคลายทางการเงินโดยธนาคารกลางแห่งญี่ปุ่น ซึ่งช่วยให้เงินเยนอ่อนค่า และตลาดหุ้นพุ่งอย่างต่อเนื่อง สำหรับลูกศรดอกที่ 3 จะเป็นการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง ซึ่งค่อนข้างสุ่มเสี่ยงและยังต้องรอรายละเอียดจากรัฐบาล แต่เชื่อว่ายุทธศาสตร์สุดท้ายนี้จะเน้นกระตุ้น “ความกระฉับกระเฉงของภาคเอกชน” ให้ถึงจุดระเบิด สำนักข่าวจิจิเพรส รายงาน ด้านหนังสือพิมพ์ โยมิอุริ ชิมบุน รายงานว่า แผนขั้นที่ 3 น่าจะหมายรวมถึงการปฏิรูปภาษี เพื่อเตรียมรับเขตเศรษฐกิจแห่งใหม่ที่รัฐบาลโตเกียวจะจัดตั้งขึ้น “เขตเศรษฐกิจพิเศษทางยุทธศาสตร์แห่งชาติ” ของ อาเบะ จะช่วยให้โตเกียวเป็นเมืองหลวงที่ง่ายต่อการทำธุรกิจระหว่างประเทศ ไม่ต่างจากนิวยอร์กและลอนดอน และจะเป็นการก้าวข้ามขีดจำกัดทั้งปวง โยมิอุริ เผย ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าว โรงเรียนนานาชาติหรือบุคลากรทางการแพทย์จากต่างประเทศ จะสามารถประกอบธุรกิจได้โดยมีข้อจำกัดที่น้อยลง ส่วนนักลงทุนต่างชาติก็จะเสียภาษีในอัตราที่น่าพอใจยิ่งขึ้น หนังสือพิมพ์ อาซาฮี ชิมบุน รายงานว่า มีความเป็นไปได้ที่ นายกฯ อาเบะ จะกระตุ้นอัตราการลงทุนจากต่างชาติให้เพิ่มเป็น 2 เท่า หรือเทียบเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 35 ล้านล้านเยน ภายในปี 2020 ซึ่งเป็นคำสัญญาที่ให้ไว้พร้อมกับแผนเพิ่มมูลค่าการส่งออกสาธารณูปโภคขั้น พื้นฐานให้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านล้านเยน ภายในปีเดียวกัน โทชิมิตสุ โมเตกิ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ, พาณิชย์ และอุตสาหกรรม แถลงวานนี้(4)ว่า รัฐบาลมีเจตนารมณ์ที่จะกระตุ้นมูลค่าการลงทุนในภาคธุรกิจให้เพิ่มขึ้น 10% ภายใน 3 ปีข้างหน้า หรือประมาณ 70 ล้านล้านเยน ซึ่งจะเทียบเท่ากับระดับก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกเมื่อปี 2008 ซึ่งมีชนวนเหตุมาจากการล่มสลายของ เลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ
ข้อมูลจาก ผู้จัดการ ออนไลน์
|