สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นและกลุ่มกรีนพีซรายงานว่า เรือล่าวาฬของญี่ปุ่นได้เดินทางออกจากท่าเรือแล้วในวันนี้ เพื่อมุ่งหน้าไปยังมหาสมุทรทางใต้ ในฤดูกาลล่าวาฬประจำปี สำนักข่าวเกียวโดรายงานอ้างสำนักงานประมงญี่ปุ่นว่า เรือ 3 ลำเดินทางออกจากท่าเรือชิโมโนเซกิ ทางตะวันตกสุดของประเทศ ขณะที่กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกรีนพีซ รายงานว่า เรือนิสชินมารุ ซึ่งเป็นเรือแม่ ได้ออกจากท่าเรืออินโนชิมะทางตะวันตกแล้วเช่นกัน นายจูนิชิ ซาโตะ ผู้บริหารกรีนพีซประจำญี่ปุ่นเปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เรือจะออกจากท่าไปยังมหาสมุทรที่อยู่ล้อมรอบทวีปแอนตาร์กติกา เนื่องจากสำนักงานประมงได้ประกาศก่อนหน้านี้ว่าเรือต้องออกเดินทางภายในเดือนนี้เท่านั้น โดยสำนักงานประมงประกาศว่าการเดินทางดังกล่าวจะสิ้นสุดภายในเดือนนี้ โดยเรือแม่จะไปสมทบกับเรืออีก 3 ลำในภายหลัง สำนักงานประมงกล่าวก่อนหน้านี้ว่า กองเรือดังกล่าววางแผนล่าวาฬมิงค์สูงสุดถึง 935 ตัว และวาฬฟิน 50 ตัว จนถึงเดือนมีนาคมปีหน้า อย่างไรก็ตาม ทางการญี่ปุ่นปฏิเสธที่จะยืนยันรายงานดังกล่าวโดยอ้างว่าเป็นเหตุผลด้านความปลอดภัย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งจะเดินทางไปกับเรือด้วย เพื่อคอยจัดการในกรณ๊ที่เกิดการคุกคามจากกลุ่มต่อต้านการล่าวาฬ การเดินทางครั้งนี้ มีขึ้นเพียงสัปดาห์เดียวหลังจากศาลสหรัฐฯสั่งให้กลุ่มกองทัพสิ่งแวดล้อม หรือ"ซี แชพเพิร์ด" อยู่ห่างจากเรือล่าวาฬอย่างน้อย 500 เมตร หลังเกิดข้อพิพามระหว่างกลุ่มต่อต้านการล่าวาฬและทางการญี่ปุ่นในเขตมหาสมุทรทางใต้ ศาลระบุว่ากลุ่มซี แชพเพิร์ด และนายพอล วัตสัน นักเรียกร้องด้านสิ่งแวดล้อมชาวแคนาดาและผู้ก่อตั้งกลุ่ม ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของตำรวจสากล ถูกสั่งห้ามเข้าใกล้เรือล่าวาฬ โดยเฉพาะของสถาบันวิจัยสัตว์น้ำที่เลี้ยงลูกด้วยนมของญี่ปุ่น ญี่ปุ่นล่าวาฬโดยอาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายที่อนุญาตให้สังหารวาฬ เพื่อจุดประสงค์เพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แม้ว่าต่อมาจะพบว่าเนื้อของพวกมันจะถูกวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยตามร้านค้าและร้านอาหารก็ตาม
ที่มา มติชนออนไลน์ |
< ย้อนกลับ | ถัดไป > |
---|