พื้นที่ 20 กม.รอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ กลายเป็นพื้นที่ร้างมานานเกือบ 6 เดือนแล้ว แต่ยังมีชาวนาคนหนึ่งที่ไม่ยอมทิ้งบ้านเรือนไปไหนนาโอโตะ มัตสึมูระ อาจเป็นชาวบ้านเพียงคนเดียวที่ยังคงอาศัยในเขตรัศมี 20 กม.รอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ หลังจากมีการประกาศเขตอพยพเนื่องจากเหตุระเบิดที่อาคารเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ทำให้สารกัมมันตรังสีรั่วไหล และพื้นที่บริเวณนั้น มีระดับการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีที่เป็นอันตรายเกินกว่าจะอยู่อาศัยได้ ก่อนเกิดวิกฤตนิวเคลียร์อันเป็นผลสืบเนื่องจากแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อ 11 มีนาคม เมืองโทมิโอกะ ที่อยู่ห่างจากโรงไฟฟ้า 12 กม. มีประชากรอาศัยกว่า 16,000 คน แต่ชาวบ้านได้อพยพออกไปหมดแล้ว คงมีเพียง นายมัตสึมูระ วัย 54 ปีที่มีอาชีพเกษตรกรรม ยังคงดำเนินชีวิตตามปกติในที่ดินของตัวเอง เพราะไม่อยากทิ้งที่ดินของบรรพบุรุษที่สืบทอดกันมาถึง 5 รุ่น นายมัตสึมูระ กล่าวว่า อยากอยู่ดูแลสัตว์ในฟาร์ม และพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาสามารถกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองได้ และเป็นสิทธิของเขาที่อยู่ แม้ทางการสั่งห้าม ส่วนข้าวที่ปลูกได้ ก็จะเก็บเกี่ยวไว้กินเอง เพราะไม่มีตลาดที่ไหนกล้ารับซื้อสินค้าจากฟุกุชิมะ ชายผู้นี้ใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีน้ำประปาและไฟฟ้าใช้ ทำให้ต้องพึ่งเครื่องปั่นไฟตัวเก่าทรุดโทรม และตักน้ำจากบ่อ กินอาหารกระป๋อง หรือปลาที่จำได้ในแม่น้ำใกล้บ้าน และทุกสองสัปดาห์ จะขับรถปิ๊กอัพออกไปนอกเขตอพยพเพื่อซื้ออาหารและเชื้อเพลิงเก็บตุนไว้ สำหรับตัวเองและเผื่อแผ่สุนัขและแมวที่ถูกทิ้งไว้ "คนลืมไปแล้วว่ายังมีพวกเราอยู่ ที่อื่นๆของประเทศก้าวเดินไปข้างหน้า และไม่อยากคิดถึงพวกเรา" นาย มัตสึมูระกล่าว และเล่าด้วยว่า เคยไปโตเกียวสองครั้งเพื่อไปบอกนักการเมืองว่า ผมยังอยู่ที่นี่ ไปบอกพวกเขาว่า มันน่าช้ำใจเพียงใดที่วัวมากมายถูกทิ้งให้ตาย สำคัญแค่ไหนสำหรับการที่จะต้องไปเคารพสุสานครอบครัว แต่ดูเหมือนพวกเขาไม่ได้ยิน พวกเขาแค่บอกผมว่า ผมไม่ควรอยู่ที่นี่ อันที่จริง นายมัตสึมูระ เคยย้ายออกไปครั้งหนึ่ง แต่ประสบการณ์ที่เจอะเจอ มีแต่ยิ่งทำให้ความปรารถนากลับไปอยู่บ้านตัวเองยิ่งแรงกล้า เช่น เคยขับไปที่บ้านญาติเพราะคิดว่าจะขออาศัยอยู่ด้วยได้ แต่ญาติไม่ให้เข้าบ้าน เพราะกลัวจะเปื้อนรังสี พอไปศูนย์อพยพ ก็แน่นขนัดไปด้วยผู้คน นายมัตสึมูระ เปรียบตนเองเหมือนกับทหารญี่ปุ่นที่ปฏิเสธยอมรับความปราชัย จนหลังสงครามโลกครั้งที่สองผ่านไปแล้วหลายสิบปี พร้อมกล่าวว่า ตอนแรก รู้สึกแปลกเหมือนกันที่จะต้องอยู่คนเดียว แต่ตั้งใจแน่วแน่ที่จะอยู่ และเริ่มชินกับชีวิตแบบนี้แล้ว
ข้อมูลจาก คมชัดลึก ออนไลน์ |
< ย้อนกลับ | ถัดไป > |
---|