การประชุมสุดยอดของผู้นำชาติสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่กรุงพนมเปญของกัมพูชา ในวันนี้ มีประเด็นสำคัญที่ประกอบด้วย การปฏิรูปครั้งประวัติศาสตร์ของพม่า แผนการปล่อยจรวดของเกาหลีเหนือ และข้อพิพาททางทะเลบริเวณจุดยุทธศาสตร์กับจีน
การประชุมของผู้นำจาก 10 ชาติสมาชิกนี้ มีขึ้นในเวลาเพียง 2 วัน หลังการเลือกตั้งซ่อมในพม่า ที่นางอองซาน ซูจี และพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย(เอ็นแอลดี)ได้เข้าไปนั่งในสภาผู้ แทนราษฎรเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์การเลือกตั้งจากกัมพูชา ที่เป็นประธานหมุนเวียนของสมาคมอาเซียน ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า การเลือกตั้งซ่อมในพม่าดำเนินไปอย่างเสรีและยุติธรรม และเรียกร้องให้ประชาคมนานาชาติยกเลิกการคว่ำบาตรพม่า ที่เป็นบทลงโทษสมัยที่พม่าตกอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหารและมีการ ละเมิดสิทธิมนุษยชนมาอย่างยาวนาน ซึ่งบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซีย ได้ยกย่องการเลือกตั้ง " ตามระเบียบ " ในระหว่างการหารือเมื่อวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นการจัดเตรียมเวทีสำหรับการรับรองอย่างแข็งขันจากผู้นำชาติสมาชิก ที่จะประชุมสุดยอดกันเวลา 2 วัน ขณะเดียวกัน สหรัฐและญี่ปุ่น กำลังอยู่ระหว่างการศึกษามาตรการตอบโต้เกาหลีเหนือ ในกรณีที่เดินหน้าการปล่อยจรวดที่ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคาม ไปพร้อม ๆ กับการเรียกร้องให้เกาหลีเหนือล้มเลิกแผนการ โดยนายชินสุเกะ ซุงิยามา นักการทูตอาวุโสของญี่ปุ่น กล่าวภายหลังการเจรจาที่กรุงวอชิงตันว่า ญี่ปุ่นกำลังหาทางขอความร่วมมือจากนานาชาติในการตอบโต้เกาหลีเหนือ ซึ่งมีแผนจะปล่อยจรวดระหว่างวันที่ 12-16 เมษายนนี้ นายซูงิยามา ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเรื่องการตอบโต้เกาหลีเหนือ แต่สหรัฐและญี่ปุ่นต่างเป็นหัวหอกในความพยายามผลักดันให้สหประชาชาติ ออกมติประนามเกาหลีเหนือที่ทดสอบขีปนาวุธและนิวเคลียร์ก่อนหน้านี้ ด้านเกาหลีเหนือยืนยันว่า เป็นโครงการส่งดาวเทียมขึ้นไปโคจรในอวกาศ เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปี ของวันคล้ายวันเกิดประธานาธิบดีคิม อิล-ซุง ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ ที่ล่วงลับไปเมื่อปี 2537 แม้ว่า เกาหลีเหนือเคยรับปากว่าจะระงับการทดสอบขีปนาวุธและนิวเคลียร์ภายใต้ข้อตกลง กับสหรัฐ เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ก็ตาม สหรัฐ ได้ระงับแผนการจัดหาความช่วยเหลือด้านอาหารให้แก่เกาหลีเหนือไปเรียบร้อย แล้ว ส่วนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นชาติที่รักสงบอย่างเป็นทางการ และไม่เคยใช้อาวุธสงครามเลย นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ระบุว่า พร้อมจะสอยจรวดเกาหลีเหนือ ถ้าพบว่า มีอันตรายต่อญี่ปุ่น ส่วนสหรัฐระบุว่า เข้าใจความวิตกของญี่ปุ่น จึงพยายามบอกไปยังเกาหลีเหนือว่า กำลังทำในสิ่งที่ผิดพลาด และควรหันหลังกลับ
ข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ |
< ย้อนกลับ | ถัดไป > |
---|