กล่าวกันว่า ภาษาอังกฤษ กับคนญี่ปุ่นเป็นเหมือนเส้นขนานที่ไม่มีทางมาบรรจบกันได้ สิ่งนี้เป็นเรื่องจริงรึเปล่า หลายๆ คนที่เคยได้คุยภาษาอังกฤษกับคนญี่ปุ่นจะรู้ว่า มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย
คนญี่ปุ่นที่เก่งภาษาอังกฤษก็มีมากเช่นกัน แต่จากที่อาจารย์ได้เจอมา คนพวกนั้นมักจะมีประสบการณ์ที่ไปโตที่เมืองนอกมาตั้งแต่เด็กๆ เช่นนักข่าวใน NHK World คนเหล่านั้นได้ไปโตที่เมืองนอกกันมา ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะเก่งภาษาอังกฤษ แต่ภาษาอังกฤษของคนญี่ปุ่นทั่วๆไปหละ เป็นอย่างไร
คนไทยโดยทั่วไปนั้น ถึงแม้ว่าจะไม่เคยไปเมืองนอกเมืองนาเลย แต่ก็สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ อย่างน้อยๆก็พูดคำศัพท์ เอามาเรียงๆกัน ฝรั่งก็ยังพอฟังรู้เรื่อง เพราะสำเนียงของคนไทยอย่างเราๆนั้นฟังรู้เรื่อง
แต่คนญี่ปุ่นโดยทั่วไป เช่นนักเรียนมัธยมปลาย หรือนักเรียนในมหาลัยนั้น มีภาษาอังกฤษที่ค่อนข้างอ่อนมาก เรียกได้ว่า ถ้านำมาเทียบกับคนไทยเราแล้ว เทียบกันไม่ได้เลย สาเหตุดังกล่าวเกิดจากอะไร เราลองมาดูกันนะครับ
หลายๆคนที่เคยพูดภาษาอังกฤษกับคนญี่ปุ่นหรือฟังคนญี่ปุ่นพูดภาษาอังกฤษจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า คนญี่ปุ่นพูดภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง ภาษาอังกฤษของคนญี่ปุ่นเข้าใจยาก ภาษาอังกฤษของคนญี่ปุ่นแย่ขนาดนั้นเชียวหรือ ในการศึกษาภาคบังคับ หลายๆคนที่ไม่เคยรู้จุดนี้อาจจะตกใจก็เป็นได้ เพราะเด็กญี่ปุ่นจะเริ่มเรียนภาษาอังกฤษตอน ม.1 ขอย้ำว่าตอนม.1 บางโรงเรียนอาจจะสอนตอนประถม แต่กระทรวงศึกษาบังคับไว้ว่าจะต้องเริ่มเรียนตอน ม.1 จุดนี้ทำให้เป็นข้อเสียเปรียบอย่างมากที่ทำให้คนญี่ปุ่น มารู้จักภาษาอังกฤษ ช้าเกินไปเสียแล้ว
อาจารย์จะสรุปจุดอ่อนที่ทำให้คนญี่ปุ่นทั่วไปไม่เก่งภาษาอังกฤษกันนะครับ
1. การศึกษาภาคบังคับ บังคับเรียนภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่ ม.1 ทำให้เริ่มจับภาษาอังกฤษช้าเกินไป เด็กจึงไม่ชิน
2. ปัญหาในเรื่อง 発音หรือการออกเสียง ถ้าเป็นคนที่เรียนญี่ปุ่นจะรู้นะครับว่า ภาษาญี่ปุ่นนั้นมีลักษณะเฉพาะแบบและมีสระ เพียงแค่ 5 ตัวเท่านั้นคือ あ, い, う, え, お ทำให้ สำเนียงที่ออกมาของคนญี่ปุ่นที่ไม่ได้ฝึกตั้งแต่เด็กๆจึงฟังยาก อย่างที่เราๆเคยได้บินกัน
เช่น McDonalds → ma+ku+do+na+ru+do(มัก - ขุ - โด - นา - รุ - โดะ) seven-eleven → se+bun+i+re+bun(เซะ+บุน+อี+เระ+บุน) ใครที่เรียนญี่ปุ่น หรือเคยคุยกับคนญี่ปุ่น ก็จะฟังได้ และไม่รู้สึกแปลกอะไร แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่เคยเรียนเลยมาฟัง คงหาคนที่ฟังครั้งแรกเลยแล้วเข้าใจยากนะครับ 3. ความแตกต่างระหว่างไวยากรณ์ ภาษาอังกฤษต่างกับภาษาญี่ปุ่นมาก ทําให้การพูดติดขัดเพราะต้องเรียงลําดับของคำกลับกันเกือบทั้งหมด จุดนี้เองทำให้คนไทยอย่างเราๆพูดภาษาญี่ปุ่นไม่เก่ง เนื่องจากต้องไปสลับคำไปมา คนที่เรียนญี่ปุ่นในช่วงแรกคงจะรู้ซึ้งดีนะครับ 4. ติดกับเสียงอ่านคาตาคานะมากเกินไป อย่างที่ทุกคนทราบคําที่มาจากภาษาต่างประเทศคนญี่ปุ่นจะแสดงด้วยตัวอักษรที่เรียกว่าคาตาคานะ ดังนั้นเวลาพูดภาษาต่างประเทศ คนญี่ปุ่นจะพูดคําเหล่านั้นด้วยสำเนียงแบบคาตาคานะ โดยไม่เอะใจว่าที่พูดไปนั้นสําเนียงมันห่างไกลกับความเป็นจริงมากน้อยเพียงใด เช่นคําว่า แกง ซึ่งมาจากภาษาอังกฤษว่า curry ภาษาญี่ปุ่นจะออกเสียงว่า คา-เร (เนื่องจากออกเสียง เออไม่ได้)
อาจารย์มีเรื่องขำขันที่เป็นปัญหาของการออกเสียงมาเล่าให้ฟังกัน ลองไปดูนะครับ บทสนทนาระหว่างคนญี่ปุ่นที่อยากกินแกงเขียวหวานกับป้าขายข้าวแกง
คุณป้า: จะเอาอะไรค่ะ คนญี่ปุ่น: คาเร คุณป้า: อะไรนะ คนญี่ปุ่น: คาเร คาเร คุณป้า: อะไรนะ คนญี่ปุ่น: คาเร คาเร คาาาเร (คาเร มันก็ภาษาอังกฤษไม่ใช่เหรอทําไมไม่เข้าใจอ่ะ) คุณป้า: อะไรนะ พูดอีกทีซิ จะเอาอะไร (มันพูดอะไรของเขาเนี่ย)
|
กว่าจะได้กินแกงเขียวหวานก็เหนื่อยด้วยกันทั้งคู่ ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นผู้กําหนดการเขียนคาตาคานะ เพราะว่า บางคํา เสียงที่ใกล้เคียงกว่าก็มีแต่ไม่ใช้กัน 5. หลักสูตรในการเรียนภาษาอังกฤษจะเน้นการอ่านเนื้อเรื่องแล้วแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นที่เรียกกันว่า 和訳(wayaku) ไม่ค่อยเน้นการสนทนา การเรียนลักษณะนี้เป็นวิธีการที่ทำต่อเนื่องมานานตั้งแต่สมัยที่ญี่ปุ่นส่งคนไปเรียนต่างประเทศ แล้วนําตำราภาษาอังกฤษกลับมาแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นให้คนในประเทศอ่าน แต่หลักสูตรตอนนี้ได้เปลี่ยนไปมากแล้ว ในห้องเรียนจะเน้นการพูดการฟังมากขึ้น บางโรงเรียนก็จ้างฝรั่งมาเป็นอาจารย์พิเศษ 6. คนญี่ปุ่นไม่อ่าน text จุดนี้เป็นจุดที่สำคัญมาก คณะแพทย์ หรือวิศวะ ในเมืองไทย หลายๆมหาลัยอ่าน text ทุกๆคนคงทราบดี แต่ที่ญี่ปุ่น คณะแพทย์ไม่อ่าน text เนื่องจากหนังสือดีๆ ตําราดีๆ ในญี่ปุ่นมีมากมายมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาการหรือหนังสืออ่านเล่น นักศึกษาในมหาวิทยาลัย ไม่มีความจําเป็นต้องหา text ภาษาอังกฤษมาอ่าน เพราะตําราเรียนดีๆที่มีอาจารย์เก่งๆเขียนเอาไว้มีให้เลือกมากมาย ดังนั้นเหตุการณ์ที่บังคับเด็กญี่ปุ่นให้ต้องพยายามอ่านภาษาอังกฤษจึงน้อยกว่าบ้านเรามากนอกจากนั้น ถ้าเป็นหนังสือภาษาอังกฤษดีๆ ดังๆ ส่วนมากจะแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นก่อนวางจําหน่าย คนซื้อส่วนมากก็จะรอให้มีเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นก่อนถึงแม้จะรู้ว่าต้นฉบับภาษาอังกฤษก็มีขาย
ลองไปดูเรื่องเล่าขำขันที่แซวภาษาอังกฤษของคนญี่ปุ่นกันดูนะครับ
นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นพอเข้ามารับตำแหน่งใหม่ ก็มีประเพณีว่า จะต้องไปอเมริกา ไปสวัสดี แนะนําตัวเองกับประธานาธิบดีอเมริกา แล้วก็กล่าวปราศรัยอะไรเล็กๆ น้อยๆ เป็นภาษาอังกฤษ เรื่องมีอยู่ว่า มีนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนหนึ่ง พอได้เป็นนายกคนใหม่ของประเทศญี่ปุ่น เขาก็เหมือนกับทุกคน เดินทางไปอเมริกาแล้วก็ กล่าวปราศรัยด้วยภาษาอังกฤษ ช่วงที่เขากำลังปราศรัยอยู่นั้น นักข่าวอเมริกา A: ภาษาญี่ปุ่นฟังดูคล้ายภาษาอังกฤษจัง นักข่าวอเมริกา B: อืม ใกล้เคียงมาก (ทั้งสองคนหารู้ไม่ว่านายกญี่ปุ่นกําลังพูดภาษาอังกฤษอยู่) 笑
เรื่องที่สอง
มีการประชุมที่โอกินาว่า นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นซึ่งพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ นายกญี่ปุ่น: How are you? ประธานาธิบดีอเมริกา: Fine,thank you, and you? นายกญี่ปุ่น: Me, too. วันต่อมา นายกญี่ปุ่นเดินเข้าไปทักทายประธานาธิบดีอเมริกาตามสคริปเดิม แต่ดันพูดผิด นายกญี่ปุ่น: Who are you? ประธานาธิบดีอเมริกาคิดว่าเป็นมุขตลกของนายกญี่ปุ่นก็เลยตอบไปว่า ประธานาธิบดีอเมริกา: I am Hilary’s husband. นายกญี่ปุ่น: Me,too. ประธานาธิบดีอเมริกา: ??? สองเรื่องนี้จริงเท็จเพียงใดไม่อาจทราบได้ แต่ที่แน่ๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องเป็นราวเป็นข่าวฮือฮาพาหัวเราะอยู่ช่วงหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหลายๆคนคงได้เคยอ่านมาแล้ว แต่หลายๆคนไม่เคยอ่านอาจารย์เลยเอามาลองให้อ่านกันขำๆนะครับ
แต่อย่าไปเหมาว่าคนญี่ปุ่นพูดภาษาอังกฤษไม่เก่งไปซะทุกคนนะครับ คนที่เก่ง สําเนียงดีก็ยังมีอีกมาก
ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาประจําชาติของคนญี่ปุ่น แล้วก็ไม่ใช่ของเราด้วย พูดไม่ชัดก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าจะเรียนก็ต้องพูดและสื่อสารให้เข้าใจ คนไทยที่เรียนภาษาญี่ปุ่นก็เช่นกัน หลายๆคนคิดว่าไม่ใช่ภาษาพ่อ ภาษาแม่เรา เรียนไปผิดๆถูกๆก็ได้ จุดนี้เป็นจุดที่ห้ามคิดเวลาเรียนภาษาญี่ปุ่นเลยนะครับอาจารย์จะเน้นให้ผู้ที่เรียนกับอาจารย์นั้นพูดภาษาญี่ปุ่นให้ใกล้เคียงกับคนญี่ปุ่นที่สุดครับ
เนื้อเรื่องโดย อาจารย์แบงค์
ภาพประกอบโดย ทีมงานโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นอาจารย์แบงค์ www.ajarnbank.com
|