เกริ่นนำโดย : ทีมงานโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นอาจารย์แบงค์
พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นโดยการนำเข้ามาของพระเจ้าเซมาโว แห่งประเทศเกาหลี ซึ่งได้ส่งราชทูตไปยังราชสำนักพระเจ้ากิมเมจิ พร้อมด้วยธง คัมภีร์พุทธธรรม พระพุทธรูปและพระราชสาสน์แสดงพระราชประสงค์ที่จะขอให้พระเจ้ากิมเมจิ รับนับถือพระพุทธศาสนา พระเจ้ากิมเมจิได้ทรงรับด้วยความพึงพอพระทัย ถือเป็นการเริ่มต้นของพระพุทธศาสนาในญี่ปุ่นตั้งแต่นั้นมา
พระพุทธศาสนาในญี่ปุ่นได้รุ่งเรืองมาเรื่อยๆ มีการสร้างวัด และสำนักปฏิบัติธรรมเป็นอย่างมาก และในปัจจุบันนี้ชาวญี่ปุ่นก็ยังนับถือพระพุทธศาสนาอยู่ ซึ่งส่วนมากจะนับถือนิกายเซน เพราะทุกวันนี้ประชาชนญี่ปุ่นต้องดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความเร่งรีบ ทำให้ไม่มีเวลาในปฏิบัติที่ยาวนาน นิกายเซนถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของชาวญี่ปุ่นในตอนนี้
วันนี้เราจะไปตามรอยพระพุทธศาสนาสู่ส้นทางที่เชื่อมต่อกันโดยภูเขาแห่งศรัทธาในพุทธศาสนาของประเทศญี่ปุ่นกัน ซึ่งเราจะไม่ค่อยได้รู้จักกันมากนัก
|
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 3 แห่งวาคายาม่า, นาระ และ มิเอะ (Wakayama, Nara,Mie) และเส้นทางที่เชื่อมต่อกันโดยภูเขาแห่งศรัทธาในพุทธศาสนา
1. โยชิโน และโอมิเนะ (Yoshino and Omine) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของภูเขาคิอิ (Kii) พัฒนามาจากสักการะสถานสำหรับ ชูเก็นโด (Shugendo) ศาสนาที่มีความรุ่งเรืองขึ้นเมื่อรวมกับความนับถือดั้งเดิมของชนภูเขาของญี่ปุ่น พุทธศาสานานิกานเซน และลัทธิเต๋า เมื่อประมาณศตวรรษที่ 12 ยึดหลักการแยกตัวสันโดษตามป่าเขา และปลีกวิเวก โยชิโน (Yoshino) มีชื่อเสียงมากในเรื่องของการเป็นหุบเขาแห่งซากุระ ดอกไม้ที่สวยงาม ท่านเจ้าเมืองโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) ได้ให้จัดงานชุมชนุมเพื่อชื่นชมความงามของดอกซากุระขึ้นที่วัดคินปุเซ็น-จิ ในปีค.ศ. 1594 ซึ่งเป็นวัดศูนย์กลางของชูเก็นโด (Shugendo) การชุมนุมครั้งใหญ่จะมีขึ้นเพื่อให้ชาวบ้านได้สารภาพบาป และชมดอกซากุระ ในเดือนเมษายนของทุกปี
2. คุมาโนะ ซานจัง (Kumano Sanzan) คือชื่อเรียก ศาลเจ้า 3 แห่งที่ตั้งอยู่ทางใต้ของภูเขาคิอิ (Kii) ได้แก่ คุมาโนะ นาชิ ตาอิชา (Kumano Nachi Taisha), คุมาโนะ ฮายาตามะ ตาอิชา (Kumano Hayatama Taisha) และ คุมาโนะ ฮอนกุ ตาอิชา (Kumano Hongu Taisha) ใช้เวลาแค่ตอนบ่ายก็สามารถไปเยือนศาลเจ้าทั้ง 3 แห่งได้โดยรถยนต์ แต่ถ้าหากมีเวลา และต้องการสัมผัสความงามของสถานที่อย่างเต็มที่ ควรพักค้างแรมที่บ่อน้ำพุร้อนคาทสุอุระ (Katsuura) หรือบ่อน้ำพุร้อนฮอนกุ (Hongu) และชมน้ำตกนาชิ(Nashi) ที่มีความกว้าง 13 เมตร และสูงถึง 133 เมตร เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นน้ำตกสูงที่สุดในญี่ปุ่น เชื่อว่าถ้าได้สัมผัสกับสายน้ำจากน้ำตกแล้วจะทำให้อายุยืนยาว
3. โคยาซาน (Koyasan) คือเมืองแห่งศาสนาบนยอดภูเขา มีวัดตั้งอยู่มากกว่า 100 แห่ง ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ วัดคนโกบุ-จิ (Kongobu-ji) สร้างโดยพระนักบวชชื่อ คุคาอิ (Kukai) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนสอนศาสนาชินกอน (Shingon)ในปี ค.ศ. 816 ภายในห้องจะมีภาพเขียนผนังสวยงาม และมีห้องที่หลานชายของท่านเจ้าเมืองโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) ฮิเดทสุกุ (Hidetsugu) ได้กระทำฮารา-คิรี (Hara-kiri) ปลิดชีพตนเองเมื่อหนีมาจนมุมต่อท่านเจ้าเมืองโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) |
โคยาซาน (Koyasan) เป็นที่รู้จักสำหรับการเป็นสถานที่พักค้างแรม ที่ทำให้ได้สัมผัสวัฒนธรรมของญี่ปุ่นจากประสบการณ์ของแหล่งวัฒนธรรมดั้งเดิม จำลองการความเป็นอยู่ รวมไปถึงอาหารมังสวิรัติเช่นเดียวกับนักบวชในพุทธศาสนา จึงทำให้มีโด่งดังมากในหมู่นักท่องเที่ยว
เส้นทางสำหรับการเดินทางนมัสการ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 แห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางสายมรดกโลก (Santiago e Compostela) ซึ่งประกอบด้วยถนน 5 สายหลัก คือ นาคาเฮชิ (Nakahechi), โคเฮชิ (Kohechi), โอโอมิเนะโอคุ-กาเคมิชิ (Oomineoku-gakemichi), อิเซจิ (Iseji) และโคยาซานโช-อิชิมิชิ (Koyasancho-ishimichi) ซึ่งอิเซจิ (Iseji) และโคยาซานโช-อิชิมิชิ (Koyasancho-ishimichi) ไม่ได้อยู่ในการขึ้นทะเบียนเป็นเส้นทางมรดกโลกแม้ว่าเส้นทางจะยากลำบาก และเต็มไปด้วยภูเขาสูง แต่ก็เป็นการดีที่จะได้เดินทางเพื่อเปิดโอกาสให้พบเห็น ชื่นชมประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่งท่ามกลางภูมิประเทศที่ธรรมชาติยังคงความสมบูรณ์ |
ขอบคุณ ข้อมูลจาก sss513002 thaigoodview.com |
< ย้อนกลับ | ถัดไป > |
---|