ในภาวะปัญหาน้ำท่วมหนักตอนนี้ เชื่อว่าหลายๆคนคงจะประสบปัญหาต่างๆไม่ว่าจะเป็นของกินไม่พอ ข้าวยากหมากแพงหรือ ข้าวของเสียหายจากน้ำท่วม แต่อีกหนึ่งภัยที่กำลังเป็นกระแสฮิตอยู่คอนนี้ที่หลายๆคนอาจจะมองข้ามไป แต่ เราจะต้องระวังเป็นอย่างดีนั่นก็คือ ภัยจากงูค่ะ ในภาวะน้ำท่วมนี้ งูคือตัวดีเลยค่ะ ที่จะว่ายปะปนไปในน้ำ ซึ่งถ้าใครไม่ระวัง หรือในกรณีโดนกัด ไม่สามารถบอกชื่องูเหล่านั้นได้ ก็อาจจะรักษาได้ไม่ทันท่วงที ดังนั้นในวันนี้ ทีมงานโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นอาจารย์แบงค์จึงจัดรวบรวมภาพงูอันตรายทั้งหลายในภาวะน้ำท่วมในปัจจุบันให้ทุกคนดู ตามรูปด้านล่างเลยค่ะ
จากรูปงูตัวไหนเป็นตัวไหน ใครที่อยู่พื้นที่เสี่ยงอย่างน้อยๆลองดูคร่าวๆนะคะ เผื่อถ้ามีใครรอบข้างดดนกัดจะได้รู้ชื่องูและรับเซรุ่มได้ทันเวลาค่ะ สำหรับตอนนี้ถ้าไม่พูดถึงงูตัวนี้ก็คงไม่ได้นะคะ งูตัวที่ว่าก็คือ งูพิษนำเข้า Green Mamba ที่มีพิษร้ายแรง มากถึง15ตัว โดยงูกรีนแมมบ้า Green Mamba นี้จะเป็นงูสีเขียว(ตัวพ่อ-แม่) ขนาดเท่างูจงอางยาว2ม.และลูก 13 ตัวยาว 1ม. ตามคลิปด้านล่างเลยค่ะ และล่าสุด ข่าวจากไอเอ็นเอ็น อัฟเดทมานะคะว่า เผยไทยไม่มีเซรั่ม งูกรีนแมมบ้า ถ้าใครถูกกัดก็คงไม่เจอปัญหาน้ำท่วมอีกต่อไปค่ะ ต้องระวังกันให้ดีๆเลยนะคะ สุดท้ายทางทีมงานขอแนะนำวิธีป้องกันภัยจากงูง่ายๆ มาให้ทุกๆคนได้อ่านกัน เผื่อว่าจะมีประโยชน์คะ วิธีป้องกันภัยและแก้ไข หากถูกงูกัดตอนน้ำท่วม 1) ตั้งสติให้ดีอย่าตกใจเกินเหตุ เนื่องจากผู้ถูกงูกัด บางรายที่ถูกงูพิษกัดอาจไม่ได้รับพิษ เพราะงูไม่ปล่อยพิษออกมา หรืองูพิษตัวนั้นได้กัดสัตว์อื่นมาก่อนและไม่มีน้ำพิษเหลือ ในกรณีที่ได้รับพิษงูผู้ถูกงูกัดจะไม่เสียชีวิตหรือมีอาการอันตรายร้ายแรงทันที ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาที จึงจะเริ่มมีอาการรุนแรง 2) ล้างแผลงูกัดด้วยน้ำสะอาดหรือแอลกอฮอล์และทิงเจอร์ ห้ามทำสิ่งต่อไปนี้ กรีดแผล ดูดแผล ใช้บุหรี่หรือไฟไฟฟ้าจี้ที่แผล โปะน้ำแข็ง สมุนไพรพอกแผล ดื่มสุรา กินยาแก้ปวดที่มีส่วนผสมของแอสไพริน เพราะการกระทำเหล่านี้ไม่ช่วยรักษา แต่กลับจะมีผลเสียคือเพิ่มการติดเชื้อ เนื้อตาย และจะทำให้เสียเวลาที่จะนำส่งผู้ถูกงูกัดไปสถานพยาบาลโดยไม่จำเป็น และห้ามดื่มเหล้า เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ กาแฟ ชา หรือเครื่องดื่มชูกำลัง 3) นอนนิ่ง ๆ จัดท่าให้ส่วนที่ถูกงูกัดอยู่ต่ำกว่าระดับหัวใจ อย่าเคลื่อนไหวร่างกายโดยไม่จำเป็นโดยเฉพาะบริเวณถูกงูกัด เพื่อชะลอการดูดซึมพิษงูเข้าสู่ท่อน้ำเหลืองและเส้นเลือดดำไหลเวียนเข้าหัวใจ ให้หาไม้ดามบริเวณที่ถูกงูกัดแล้วใช้ผ้าพันให้แน่นพอประมาณเหนือแผลงูกัดประมาณ 5-15 ซม. แต่ไม่ควรทำการขันชะเนาะ เพราะอาจทําให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้น ๆ ขาดเลือดไปเลี้ยง เกิดเนื้อตายได้ 4) รีบนำผู้ถูกงูกัดส่งสถานบริการสาธารณสุขที่ใกล้ที่สุด และโดยเร็วที่สุด โดย ระหว่างการนำส่งสถานบริการสาธารณสุขถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจ ให้ทำการช่วยหายใจ เช่น การช่วยแบบเป่าปากต่อปาก จะช่วยชีวิตผู้ป่วยได้นานพอ จนไปรับการรักษาที่สถานพยาบาลได้ เพราะงูพิษบางชนิด เช่น งูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยม พิษจะทำให้ร่างกายเป็นอัมพาตทั้งตัว ผู้ถูกงูกัดจะเสียชีวิตจากการหยุดหายใจ ผู้ประสบเหตุ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงลักษณะงูที่กัด และกัดบริเวณใด เมื่อไร ถ้านำซากงูไปด้วยก็จะดีมาก แต่ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาตามหาและถึงกับไล่ตีงูเพื่อนำไปด้วย เพราะจะทำให้เสียเวลาในการรักษาโดยไม่จำเป็น ถ้าผู้ป่วยมีโรคประจำตัว หรือเคยมีประวัติแพ้ยาหรือสารใด ๆ ให้แจ้งแพทย์ทราบด้วย ผู้ถูกงูกัดไม่จำเป็นต้องได้รับเซรุ่มแก้พิษงูทุกราย แพทย์จะให้เซรุ่มแก้พิษงูเฉพาะในรายที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์เท่านั้น วิธีการป้องกันนั้น ผู้ประสบภัยน้ำท่วมควรหลีกเลี่ยงการเดินซอกแคบๆ โพรงไม้ ซอกหินแคบ เดินลุยบริเวณที่มีน้ำขังและมองไม่เห็นพื้นดิน ในที่รกมีหญ้าสูง ในป่าหรือทุ่งนาเวลากลางคืน หากจำเป็นให้เตรียมไฟฉายไปด้วย แล้วใส่กางเกงขายาว ควรมีไม้ตีหญ้าข้างหน้าไว้ ต้องสวมรองเท้าบูทเสมอ และให้ระวังป้องกันรองเท้าบูทมิให้งูหรือสัตว์มีพิษเข้าโดยการพับหรือใช้ยางมัดไว้ รวมทั้งหมั่นสำรวจตรวจตราดูแลบ้านเรือนให้สะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ปล่อยให้สกปรกรุงรัง ระวังเป็นพิเศษในการยกหิน กองเสื้อผ้าเก่าๆ หรือกองหญ้า เพราะเป็นที่งูชอบอาศัยแต่หากตนเองหรือบุคคลในครอบครัวมีประสบเหตุงูกัดให้รีบพาไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด ก่อนที่อาการจะลุกลามและเกิดอันตรายต่อชีวิตแล้วรีบโทรแจ้งที่ เบอร์ 1422 หรือ 1669 และเน้นย้ำให้ประชาชนเคร่งครัดปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือตามประกาศของทางราชการ เรียบเรียงข้อมูลและเขียนเพิ่มโดย ทีมงานโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นอาจารย์แบงค์ ขอบคุณคำแนะนำดีๆจาก กรมควบคุมโรค ห่วงใย อยากเห็นคนไทยมีสุขภาพดี ที่มา http://dpc9.ddc.moph.go.th/crd/news/tv/2554_10_15_snake.html ที่มา สยามเอนซิส |
< ย้อนกลับ | ถัดไป > |
---|