บรรดานักลงทุนยังนิ่งเฉย แม้กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวานว่า บริษัท พานาโซนิค ของญี่ปุ่น รวมทั้งซันโยที่เป็นบริษัทลูก ยอมรับสารภาพในคดีที่ทั้งสองเจ้าได้ร่วมกันกำหนดราคาชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์และแบตเตอรี่ โดยทั้งสองยินยอมที่จะจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 56.5 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,751.5 ล้านบาท)
ส่วนบริษัท แอลจีเคม จำกัด ก็ยอมรับสารภาพว่าร่วมฮั้วราคาแบตเตอรี่ที่ใช้ในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กด้วยเช่นกัน และยินยอมที่จะจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้านดอลลาร์ (ราว 31 ล้านบาท) กระทรวงยุติธรรมแถลงเมื่อวันที่ 18 กค 2013
พานาโซนิคนั้นถูกฟ้องรวม 3 กระทง โดยคำฟ้องระบุว่าในช่วงเดือนกันยายน ปี 2003 ถึง กุมภาพันธ์ ปี 2010 บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นรายนี้ได้สมรู้ร่วมคิดเพื่อฮั้วราคาประมูลชิ้นส่วนรถยนต์ ตลอดจนตรึงราคาและกำหนดให้ราคาชิ้นส่วนรถยนต์เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่ต้องการ
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุในคำฟ้องว่า ชิ้นส่วนรถยนต์ดังกล่าว ได้แก่ แผงควบคุมวงจรที่พวงมาลัย เซนเซอร์ควบคุมการหมุนพวงมาลัย ซึ่งพานาโซนิคขายให้กับโตโยต้า บริษัทญี่ปุ่นยักษ์ใหญ่ทั้งในสหรัฐฯ และในประเทศอื่นๆ
|
ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัท พานาโซนิค จะต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงินทั้งสิ้น 45.8 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,419.8 ล้านบาท)
“นอกเหนือจากพานาโซนิค ยังมีบริษัทอีก 11 แห่ง และผู้บริหารทั้งหมด 15 คน ได้รับสารภาพแล้ว หรือยินยอมที่จะรับสารภาพ และยินยอมที่จะจ่ายค่าปรับเป็นเงินกว่า 874 ล้านดอลลาร์ (ราว 27,094 ล้านบาท) ตามผลของการสอบสวนเรื่องชิ้นส่วนรถยนต์นี้” คำแถลงของกระทรวงระบุ โดยที่บอกด้วยว่าผู้บริหารบริษัทเหล่านี้หลายรายถูกลงโทษจำคุกแล้วหรือกำลังจะถูกลงโทษดังกล่าว
สำหรับคดีที่ ซันโย และแอลจีเคม เป็นจำเลย คือ การฮั้วราคาแบตเตอรี่ลิเธียมทรงกรวยที่ใช้สำหรับคอมพิวเตอร์แบบพกพา ซึ่งมีผู้ยื่นฟ้องตั้งแต่ประมาณเดือนเมษายน ปี 2007 จนถึงเดือนกันยายน ปี 2008
บริษัททั้งสองสารภาพว่าได้ตกลงกัน “ในช่วงการประชุมและการสนทนา” ที่จะกำหนดราคาแบตเตอรี่แบบชาร์จใหม่ได้หลายครั้งให้อยู่ในระดับที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า
“ซันโย แอลจีเคม และผู้สมรู้ร่วมคิดกับทั้งสองบริษัทได้จัดทำ และแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการติดตามและบังคับให้เป็นไปตามราคาที่แอบตกลงกันไว้แล้ว อีกทั้งดำเนินการปกปิดการสมรู้ร่วมคิดในครั้งนี้” กระทรวงยุติธรรมกล่าวเสริม
อย่างไรก็ตาม หุ้นของพานาโซนิคแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากคดีนี้เลย โดยตกลงไปแค่ 0.11 เปอร์เซ็นต์ ไปอยู่ที่ 879 เยน ขณะที่ดัชนีหุ้นของโตเกียวนิกเคอิ 225 ตกลงไป 1.48 เปอร์เซ็นต์
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์ |
< ย้อนกลับ | ถัดไป > |
---|