ต้องขอแสดงความยินดีแก่เหล่าบรรดาผู้ที่ต้องการจะลดน้ำหนักทั้งหลาย เมื่อทีมนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยโตเกียวของญี่ปุ่น เกิดปิ๊งไอเดียเด็ดๆ ออกมาช่วยให้ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักสามารถทำการลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้นแล้ว สิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวนั้นคือแว่นตาที่มีชื่อว่า “เมตาคุกกี” ซึ่งมีความสามารถพิเศษที่ช่วยทำให้ผู้ที่ต้องการจะลดน้ำหนักสามารถรับประทาน อาหารได้น้อยลง เพราะทีมผู้คิดค้นได้ใช้กลไกของแว่นตาผนวกเข้ากับหน้าจอทีวีที่ติดอยู่ด้าน ในตัวแว่น เพื่อทำให้อาหารหรือขนมที่กำลังรับประทานอยู่ดูมีขนาดใหญ่ขึ้นที่ยืดขยาย ใหญ่กว่าเดิมอีก 1 เท่าตัว เมื่อผู้รับประทานอาหารหรือขนมเห็นสิ่งที่ตนเองกำลังจะรับประทานมีขนาด ใหญ่ ก็จะทำให้คิดว่าตนเองรับประทานเข้าไปเยอะแล้ว และจะเกิดอาการอยากรับประทานน้อยลง ผู้ผลิตกล่าวว่า กลไกดังกล่าวเป็นการสร้างภาพลวงต่อการรับรู้การรับประทานอาหารของมนุษย์ให้ คิดว่าได้รับประทานอาหารเข้าไปเป็นจำนวนมากแล้วนั่นเอง นอกจากนี้ ภาพของสิ่งที่รับประทานที่ปรากฏต่อสายตาของผู้ใช้นั้นจะปรากฏเป็นสีออกโทน น้ำเงิน เนื่องจากทีมวิจัยได้ใส่เลนส์สีน้ำเงินลงในแว่นตาดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าสีน้ำเงินเป็นสีที่จะช่วยทำให้ความอยากในการรับประทานอาหารของ มนุษย์ลดลง และแว่นตาเมตาคุกกีนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่อันเดียวเท่านั้น แต่ทางผู้ผลิตคิดค้นยังได้ทำเวอร์ชันที่ 2 ออกมาด้วย ซึ่งตัวแว่นตาเมตาคุกกีเวอร์ชัน 2 นั้น จะมีคุณสมบัติที่คล้ายกันกับเวอร์ชัน 1 ทุกประการ แต่จะต่างตรงที่เวอร์ชัน 2 นั้น มีอุปกรณ์สำหรับช่วยให้กลิ่นของสิ่งที่รับประทานเพิ่มเข้ามา ซึ่งการเพิ่มกลิ่นเข้ามานั้นจะช่วยสร้างภาพลวงให้การรับรู้ของมนุษย์แยบยล มากขึ้น ผลจากการทดสอบการใช้แว่นตากับมนุษย์จริงที่อาสาเข้ามาทดลองเครื่องนี้ ปรากฏว่าโดยเฉลี่ยทุกคนมีการรับประทานอาหารที่ลดลงจากคนปกติที่ไม่ได้ใส่ แว่นตาเมตาคุกกีถึง 9.3% กลับกัน ทางทีมนักวิจัยได้ลองปรับภาพในอุปกรณ์ของแว่นตาเมตาคุกกีให้อาหารที่กำลัง รับประทานอยู่มีขนาดเล็กลงจากความเป็นจริงประมาณ 33% ผลการทดสอบพบว่าผู้เข้าทดสอบรับประทานอาหารมากขึ้น 15% อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่สนใจและอยากหาซื้อมาครอบครองต้องบอกก่อนว่า ขณะนี้อุปกรณ์ดังกล่าวยังเป็นเพียงแค่การทดลองเท่านั้น และทางทีมผู้วิจัยก็ยังไม่เปิดเผยด้วยว่าสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวจะเริ่มออกวาง จำหน่ายเมื่อไร ต้องยอมรับจริงๆ ว่าทีมวิจัยของญี่ปุ่นช่างรู้จักคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ มาให้มนุษย์ได้ตื่นเต้นตลอดเวลาจริงๆ
ข้อมูลจาก โพสต์ท๊เดย์ |
< ย้อนกลับ | ถัดไป > |
---|