“อิตาเลียนไทย”คาดงบก่อสร้างท่าเรือและนิคมทวายจะต้องใช้ถึง 1.5แสนล้านบาท ล่าสุดดึงกลุ่มทุนชาติอื่นๆเข้าซื้อที่โรงงานเพื่อระดมทุนก่อสร้าง หลังควักไล้ว3.5พันล้านเหรียญเพื่อสร้างท่าเรือและถนน ชี้ได้กลุ่มตะวันออกกลางซื้อที่ทำโรงกลั่น 3แสนบาร์เรลต่อวัน ส่วนกลุ่มนักลงทุนญี่ปุ่นเจรจาซื้อพื้นที่ตั้งโรงเหล็ก คาดได้ข้อสรุปปลายปี ย้ำเป้าหมายอนาคตพร้อมลดสัดส่วนถือหุ้นใน “ทวาย ดีเวลลอปเมนท์” จาก75% หรือ 51% เปิดทางกลุ่มทุนอื่นร่วมถือหุ้น นายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเม้นท์(ITD) กล่าวว่า การดำเนินโครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวายในหภาพพม่า บนพื้นที่ทั้งหมด 1.5 แสนไร่นั้น จะต้องใช้เงินลงทุนในการก่อสร้างนิคมฯประมาณ 1.5 แสนล้านบาท หรือใช้เงินลงทุนประมาณ 1 ล้านบาทต่อไร่ โดยนิคมอุตสาหกรรมทวาย บริษัทจะเน้นการขายที่ดินให้กับนักลงทุนที่สนใจเข้ามาก่อสร้างโรงงาน และในส่วนของITD จะลงทุนพัฒนาในส่วนของสาธารณูปโภคต่างๆ น้ำ ไฟฟ้า และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมใช้งบประมาณเฉพาะในส่วนของการสร้างท่า เรือ และถนน คิดเป็นลงทุนทุนประมาณ 3,500 ล้านเหรียญแล้ว “เงินในส่วนนี้เป็นเงินกู้ 60% จากมูลค่าสถาบันการเงินระหว่างประเทศจากญี่ปุ่นที่เป็นลักษณะเงินให้ความ ช่วยเหลือ ส่วนที่เหลือจะใช้จากเงินสดและรายได้ที่ขายที่ดินที่จะเข้ามา ล่าสุดเราได้มีการเจรจากับนักลงทุนที่สนใจเข้ามาซื้อที่ดินเพื่อตั้งโรง กลั่นน้ำมัน โรงถลุงเหล็ก โรงปุ๋ย รวมทั้งผู้ที่สนใจเข้ามาถือหุ้นในท่าเรือเรียบร้อยแล้ว” สำหรับในส่วนของโรงกลั่นน้ำมัน ITD ได้เจรจากับบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่จากตะวันออกกลาง เพื่อเข้ามาก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมัน กำลังการผลิต 3 แสนบาร์เรล/วัน ซึ่งทางบริษัท ได้นำเรื่องการลงทุนในนิคมฯทวายเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการของบริษัทเพื่อขอ อนุมัติแล้ว ส่วนโรงถลุงเหล็ก ITD ได้เจรจาขายที่ดินให้กับบริษัทผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่จากญี่ปุ่น เพื่อเข้ามาก่อสร้างโรงงานในพื้นที่ 1.25 หมื่นไร่ กำลังการผลิต 10 ล้านตันต่อปี คาดว่าจะสรุปได้ภายในปีนี้ ขณะที่โรงงานผลิตปุ๋ย จะเป็นกลุ่มนักลงทุนจากยุโรปกำลังการผลิต 4 ล้านตันต่อปี ประธานบริหาร ITD กล่าวถึงการก่อสร้างท่าเรือ ซึ่ง บมจ.ราชบุรี โฮลดิ้ง (RATCH) และกลุ่มนักลงทุนโรงถลุงเหล็ก สนใจจะมาร่วมทุนด้วยว่า เรื่องดังกล่าว เพราะเป็นผู้ใช้ประโยชน์จากท่าเรือโดยตรง เพราะท่าเรือแห่งนี้ มีความสามารถในการรองรับการขนส่งทางเรือขนาด 2 แสนเดทเวทตัน ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง จำนวน 2.5 พันล้านเหรียญ โดย การก่อสร้างโครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวายในสหภาพพม่า บริหารจัดการโดยบริษัท ทวาย ดีเวลลอปเมนท์ ซึ่งITD ถือหุ้นจำนวน 75% ส่วนอีก 25% กระจายให้กับกลุ่มนักลงทุนท้องถิ่น และทางบริษัทมีแผนที่จะขายหุ้นบริษัท ทวาย ดีเวลลอปเมนท์ ให้กับนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาถือหุ้น โดยพร้อมจะลดสัดสวนลงเหลือ 51% ในอนาคต โดยล่าสุดได้มีการเจรจากับกลุ่มนักลงทุนจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์เข้ามาติดต่อขอเข้าร่วมทุน นอกจากนี้ ITD ยังได้ข้อสรุปในโครงการผลิตไฟฟ้าในโครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรม ทวาย ว่าจะใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในช่วง 5 ปีแรก สำหรับการผลิตไฟฟ้าขนาด 240 เมกะวัตต์ จากนั้นก็จะใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง โดยจะเริ่มก่อสร้างในสิ้นปีนิ และเริ่มผลิตในปีหน้า “โครงการผลิตไฟฟ้าที่ทวาย เราอาจจะขยายกำลังการผลิตไปถึง 10,000 เมกะวัตต์ โดยใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง จากเดิมจะดำเนินโครงการ 4,000 เมกะวัตต์ จะเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใช้เทคโนโลยีสะอาด คาดว่าใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี และจะจ่ายไฟได้ในปี 2559 และคาดว่าจะใช้เวลาถึง 15ปีในการผลิตไฟไฟ้าได้เต็มกำลังการผลิต โครงการนี้ ITD ได้ร่วมทุนกับบมจ.ราชบุรีโฮลดิ้ง เพื่อนำไฟฟ้าไปใช้ภายในนิคมอุตสาหกรรมเป็นหลัก แต่หากรัฐบาลพม่าอนุญาตก็อาจจะส่งไฟฟ้าขายภายนอกโครงการด้วย”
ข้อมูลจาก ผู้จัดการ ออนไลน์
|
Tags: ข่าวญี่ปุ่น | นักลงทุนญี่ปุ่น | อิตาเลียนไทย | โรงกลั่นน้ำมัน | โรงถลุงเหล็ก