หอการค้าญี่ปุ่นในประเทศไทย (JCCB) รายงานผลสำรวจบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในไทย 366 บริษัท จาก 1,345 บริษัท ครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตและอื่น ๆ ระบุถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจ ผลกระทบจากน้ำท่วม และข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลไทย ก่อน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนำคณะรัฐมนตรีไปญี่ปุ่น 6-9 มีนาคมนี้ โดย นักลงทุนญี่ปุ่นตอบชัดเจน จะมีอุตสาหกรรมเตรียมย้ายฐานการผลิตจากไทยไปประเทศอื่นราว 25% ยังคงเลือกเดินหน้าผลิตในพื้นที่เดิม 85% และเรียกร้องรัฐบาลไทยให้ความสำคัญตามลำดับ 3 เรื่อง แผนป้องกันน้ำท่วมฉับพลัน 83% นำเสนอข้อมูลถูกต้องแม่นยำ 68% จัดตั้งกองทุนระบบประกันภัย 32% ขณะเดียวกันก็เรียกร้องเรื่องการ เตรียมรับปีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2558 ที่ขอให้รัฐบาลไทยเร่งปรับมากสุด 3 เรื่องคือ ความสะดวกรวดเร็วของระเบียบศุลกากร 79% ยกเลิกภาษีอากร 71% ผ่อนปรนการเดินทาง เคลื่อนย้ายคนงานระหว่างกัน 50% นอกจากอุปสรรค ขยายการลงทุนเรื่องปัญหาน้ำท่วม บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยังเจอปัญหาขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท เตรียมทางออกโดยนำเครื่องจักรเข้ามาใช้แทนแรงงานคนราว 50% ควบคู่กับการจำกัดจำนวนบุคลากรไว้ที่ 47% ย้ายฐานการผลิต 5% และมาตรการอื่นๆ ก็มีปรับราคาสินค้า ทั้งนี้ เจซีซีบีแสดงผลสำรวจเชิงบวกประเมินธุรกิจครึ่งแรกปีนี้ มกราคม-มิถุนายน 2555 อุตสาหกรรมการผลิตทุกประเภทจะดีขึ้น 64% แย่ลง 18% นายเซ็ทซึ โอะ อิอูจิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) และ ประธานการสำรวจผลเศรษฐกิจครั้งนี้ กล่าวว่า ขณะนี้อินโดนีเซียเป็นตลาดที่กำลังได้รับความสนใจ เนื่องจากมีปริมาณการบริโภคสูงจากประชากร 237 ล้านคน มีรายได้ 3,000 เหรียญสหรัฐ/คน/ปี ส่วนเวียดนามมีแรงจูงใจจากค่าจ้างแรงงานถูก เช่นเดียวกับพม่าที่นักลงทุนญี่ปุ่นในไทยทำตลาดส่งออกอันดับ 6 พม่ามีแม่เหล็กสำคัญคือ ทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ค่าแรงงานถูก และกำลังปฏิรูปประเทศไปในทางที่ดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเยือนประเทศญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 6-9 มี.ค. นายกรัฐมตรีมีกำหนดการกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดงานสัมมนานักธุรกิจ จากนั้นมีการพบป นายโชซาคุ ยาสุอิ ประธาน Japan Finance Corporation (JFC)รวมทั้งประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น นอกจากนี้มีกำหนดการหารือเต็มคณะกับนายกฯญี่ปุ่น
ข้อมูลจาก มติชน ออนไลน์ |
< ย้อนกลับ | ถัดไป > |
---|